การเล่นและเคลื่อนไหว จัดเป็นพฤติกรรมที่สำคัญและจำเป็นสำหรับเด็กปฐมวัย โดยเด็กธรรมชาติของเด็ก ๆ ในวัยนี้จะชอบเล่น ซึ่งการเล่นและการเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการด้านร่างกาย เด็กจะได้พัฒนาอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย การได้ใช้ประสาทสัมผัสและร่างกายสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ จะทำให้เด็กเกิดการพัฒนาด้านร่างกายในส่วนของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก และการประสานงานของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กล้ามเนื้อมัดใหญ่ คือ กล้ามเนื้อบริเวณ แขน ขา ลำตัว รวมไป อวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายที่สามารถทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว
กล้ามเนื้อมัดเล็ก คือ กล้ามเนื้อบริเวณข้อมือจนถึงปลายนิ้วมือ ทำหน้าที่ในการกด นวด ขยำ หยิบ จับ สิ่งของต่าง ๆ
การประสานงานของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อในการทำงาน คือ ระบบประสาทส่วนกลางทำหน้าที่ ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อแขน ขา ลำตัว และกล้ามเนื้อการหายใจ ทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสัมพันธ์กัน
แนวทางการจัดกิจกรรมการเล่นและเคลื่อนไหวสำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 3 – 5 ปี
สำหรับเด็กในวัยนี้ จะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น มีการพัฒนาของร่างกายที่เพิ่มมากขึ้น จะเริ่มเคลื่อนไหวในท่าทางที่ยากมากขึ้น สามารถเดิน วิ่ง กระโดดได้ดี จึงควรจัดกิจกรรมการเล่นที่หลากหลาย เน้นความสนุกสนาน เน้นกิจกรรมการเคลื่อนไหวพื้นฐาน เช่น คลาน ยืน เดิน วิ่ง กระโดด ขว้าง ปีนป่าย ไม่เน้นให้เล่นในรูปแบบการฝึกฝนหรือเล่นกีฬาที่มีกติกาหรือเน้นผลแพ้ชนะ โดยจะต้องมีอุปกรณ์การเล่นที่ส่งเสริมความปลอดภัยของเด็ก เอื้อให้เด็กเล่นอย่างสนุกสนาน ในสถานที่ที่เหมาะสม ภายใต้การดูแลของคุณครูปฐมวัย
การส่งเสริมการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการพัฒนาเด็กปฐมวัย ผ่านการเล่นและการเคลื่อนไหว ควรจะให้มีการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ด้วยระดับความหนักของกิจกรรมแบบปานกลางหรือแบบหนัก อย่างน้อยวันละ 180 นาที ซึ่งในช่วง 180 นาทีนี้ไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมการเล่นติดต่อกันตลอด แต่แบ่งช่วงในกระจายตลอดทั้งวันก็ได้
กิจกรรมทางกายระดับปานกลาง คือ กิจกรรมการเคลื่อนไหวที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยปานกลาง โดยระหว่างที่ทำกิจกรรมยังสามารถพูดเป็นประโยคได้ เช่น การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน เป็นต้น
กิจกรรมทางกายระดับหนัก คือ กิจกรรมการเคลื่อนไหวที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยมาก ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างที่ทำกิจกรรมไม่สามารถพูดเป็นประโยคได้ เช่น การวิ่ง การออกกำลังกาย การเล่นกีฬา เป็นต้น
ตัวอย่างกิจกรรมการเล่นและเคลื่อนไหวสำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 3 – 5 ปี
กิจกรรมวิ่งฝึกกำลังวิธีการเล่น : คุณครูปฐมวัยให้เด็กอนุบาลวิ่งจากจุดเริ่มต้นไปยังเส้นชัย ในระยะทางที่กำหนด 10 เมตร โดยจะต้องวิ่งบนพื้นเรียบ ไม่ขรุขระ
ประโยชน์ที่ได้รับ : ช่วยพัฒนาระบบหายใจและไหลเวียนเลือด ช่วยพัฒนาเด็กปฐมวัยในด้านร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแรง และความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อขา
กิจกรรมวิ่งอ้อมกรวย
วิธีการเล่น : คุณครูปฐมวัยให้เด็กอนุบาลวิ่งจากจุดเริ่มต้นอ้อมกรวยซ้ายและขวา ไปจนถึงเส้นชัย โดยกรวยแต่ละอันห่างกันประมาณ 60 – 70 เมตร
ประโยชน์ที่ได้รับ : ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัย ทั้งในด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา และด้านการทรงตัว
กิจกรรมกระโดดให้ถึงเส้นชัยวิธีการเล่น : คุณครูปฐมวัยให้เด็กอนุบาลกระโดดไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องกันจนถึงเส้นชัย โดยจะกระโดดขาเดียวหรือกระโดดทั้งสองขาก็ได้
ประโยชน์ที่ได้รับ : ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัย ทั้งในด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ด้านการทรงตัว และพลังของกล้ามเนื้อแขน ขา ลำตัว
วิธีการเล่น : คุณครูปฐมวัยวางตะกร้าเรียงกันเป็นแถว แล้วให้เด็กอนุบาลจับลูกบอลโยนใส่ตะกร้า โดยมีระยะห่างจากจุดยืนประมาณ 1.50 – 2.50 เมตร
ประโยชน์ที่ได้รับ : ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัยทั้งในส่วนของประสาทสัมผัส การมอง การวัดระยะ และการพัฒนากล้ามเนื้อมือ กล้ามเนื้อไหล่
วิธีการเล่น : คุณครูปฐมวัยให้เด็กอนุบาลเตะลูกบอลให้เข้าประตู โดยมีระยะเตะจุดเริ่มต้นอยู่ห่างจากประตูประมาณ 1.50 – 3 เมตร
ประโยชน์ที่ได้รับ : ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัย ทั้งในส่วนของประสาทสัมผัส การมอง การวัดระยะ และช่วยพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา
การเล่นและเคลื่อนไหวนอกจากจะส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กปฐมวัยแล้ว ยังมีจุดมุ่งหมายสำคัญดังต่อไปนี้
1.ส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก
2.ส่งเสริมให้เด็กรู้จักสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคนอื่น
3.ส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออก มีความเชื่อมั่นในตนเอง
4.ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์
5.ส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาความคิดอย่างมีเหตุผลมากขึ้น
ในระหว่างที่เด็ก ๆ ได้เล่น ได้เคลื่อนไหว ได้ทำกิจกรรมทางกาย คุณครูปฐมวัยสามารถใช้โอกาสนี้ ดูและสังเกต เพื่อการประเมินพัฒนาการเด็ก โดยนำไปสรุปลงในแบบประเมินพัฒนาการเด็ก สมุดรายงานประจำตัวเด็กปฐมวัย สามารถสังเกตพัฒนาการด้านร่างกายและการเจริญเติบโตของเด็กได้จากการแสดงออก โดยเฉพาะความสามารถในการจัดการกระทำกับวัตถุ เช่น การเล่นบอล เด็กต้องใช้ความสามารถของด้านสายตาและกล้ามเนื้อ ซึ่งต้องสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองและการเคลื่อนไหวประกอบกัน
คุณครูปฐมวัยควรประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคลอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องตลอดปี จะเป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวหน้าตามศักยภาพ และจะต้องนำข้อสรุปเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก ๆ มาบันทึกลงในสมุดพกเด็กปฐมวัย เพื่อส่งต่อให้ผู้ปกครองรับทราบต่อไป
Related posts
ประสบการณ์ยิ่งเยอะ…ยิ่งเรียนรู้ได้ไว ชวนคุณครูปฐมวัยมาดูแนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย (ตามหลักสูตรปฐมวัย พ.ศ. 2560)
หมวดหมู่
- ความรู้ครูปฐมวัย (108)
- หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย (30)
- อื่นๆ (66)
- ดาวน์โหลดเอกสาร (2)
- พัฒนาการเด็กปฐมวัย (44)
- เอกสารประเมินพัฒนาการเด็ก (14)
- โปรแกรมครูแคร์ (11)
- วิดีโอ (6)
บทความล่าสุด
- 5 เทคนิคเด็ดสำหรับครูและพ่อแม่ เพิ่มทักษะอารมณ์และสังคมให้เด็กปฐมวัย กันยายน 23, 2024
- เคล็ดลับการเตรียมเด็กอนุบาลให้พร้อมสำหรับวันแรกของโรงเรียน กันยายน 22, 2024
- การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เป็นมิตรและปลอดภัยของเด็กปฐมวัย กันยายน 17, 2024
- เปลี่ยนเด็กดื้อเป็นเด็กดี ด้วยวิธีรับมือแบบคุณครูมืออาชีพ กรกฎาคม 1, 2024
- รับมือเด็ก Gen Alpha เรื่องนี้ คุณครูต้องรู้ มิถุนายน 10, 2024
บทความแนะนำ
-
5 เทคนิคเด็ดสำหรับครูและพ่อแม่ เพิ่มทักษะอารมณ์และสังคมให้เด็กปฐมวัย
กันยายน 23, 2024 -
การจัดประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
มิถุนายน 6, 2018 -
การให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม
มิถุนายน 6, 2018 -
วิธีฟื้นคืนเด็กพิเศษให้ปกติด้วยการศึกษา
มิถุนายน 6, 2018 -
เสริมสร้างพัฒนาการเด็กอย่างไรให้โตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ!
มิถุนายน 6, 2018