ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันการที่คุณครูจะได้สอนโดยตรงตัวต่อตัวกับเด็กคงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะมีอุปสรรคด้วยโรคภัยที่ทำให้ต้องเปลี่ยนการสอนมาเป็นระบบออนไลน์ ซึ่งทำให้เด็กอาจจะได้รับการพัฒนาอย่างไม่เต็มที่เท่าการสอนแบบเจอตัวต่อตัว แต่ทั้งนี้เพราะเด็กมีการเจริญเติบโตทุกวันและจำเป็นที่ต้องได้รับการพัฒนาแบบไม่มีวันหยุด ทำให้คุณครูต้องคิดอย่างหนักและหาวิธีส่งเสริมพวกเขาให้ได้มีการพัฒนาทั้ง 4 ด้าน ให้ดียิ่งขึ้น
โดยทั้ง 4 ด้านนี้ได้แก่ พัฒนาการทางด้านร่างกาย, พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ, พัฒนาการทางด้านสติปัญญา และ พัฒนาการด้านการเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม
โดยวันนี้ “รัฐกุล” ได้แนะนำวิธีสำหรับคุณครูทุกท่านกับ 6 พฤติกรรมที่ ‘ครู’ ควรส่งเสริมเพื่อพัฒนาการของเด็ก สำหรับวิธีดังต่อไปนี้สามารถใช้ได้ทั้งแบบการสอนเจอตัวต่อตัว และการสอนแบบระบบออนไลน์ โดยขึ้นอยู่กับการปรับการสอนของคุณให้เข้ากับการส่งเสริมเหล่านี้ แล้วมีพฤติกรรมไหนที่คุณครูควรส่งเสริมเขาบ้าง สามารถอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ
1.ส่งเสริมให้เด็กได้ช่วยงานบ้าน
การส่งเสริมให้เด็กทำงานบ้านอาจโดยเริ่มจากการเก็บของที่ตัวเองนำออกมาใช้ หรือเก็บของเล่น ถ้าหากสอนแบบ on site ก็ให้เขาปฏิบัติให้คุ้นชิน หรือถ้าหากสอนแบบ Online ก็จะต้องย้ำเตือนให้พวกเขาได้ลองฝึกปฏิบัติสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ โดยการทำงานบ้านนั้นจะทำให้ได้พัฒนาด้านร่างกาย เพราะร่างกายได้ขยับลุก นั่ง ทำสิ่งต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาการด้านการเข้าสังคม เพราะเด็กจะรู้ว่าสิ่งใดที่ทำแล้วช่วยส่วนรวมได้นั่นเอง
2.ส่งเสริมการตั้งคำถามและสงสัย
การเป็นเด็กขี้สงสัยและการชอบตั้งคำถามไม่ใช่เด็กที่น่าเบื่อหรือน่ารำคาญ ก่อนอื่นคุณครูต้องส่งเสริมพฤติกรรมนี้ของเขาและทำให้เขาไม่รู้สึกเสียความรู้สึกในการตั้งคำถาม และนอกจากนี้ครูต้องตอบคำถามและแนะนำเด็กในทางที่ดี หรือชักจูงให้เขาหาคำตอบให้ตัวเองได้ โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองและคนรอบข้างเดือดร้อน ซึ่งการส่งเสริมพฤติกรรมนี้จะทำให้เด็กได้มีพัฒนาการ ทางด้านสติปัญญา เพราะได้ฝึกคิด ฝึกหาคำตอบนั่นเอง
3.ส่งเสริมเด็กที่ชอบเล่น ให้ได้ประโยชน์จากการเล่น
เด็กบางคนชอบเล่น และการเล่นก็คือการได้เรียนรู้ ผู้เป็นครูควรปล่อยให้เด็กได้เล่น โดยการเล่นต้องอยู่ในสายตาของคุณเพื่อระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือถ้าหากเป็นการเล่นในแบบการเรียนออนไลน์ต้องควบคุมระยะเวลาในการเล่นให้พอดี แล้วชี้แนะเขาให้รู้ถึงประโยชน์ของการเล่นสิ่งเหล่านั้น โดยการที่เด็กได้เล่นจะทำให้เด็กได้พัฒนาทางด้านสมองและสติปัญญา และถ้าหากเป็นการเล่นที่ได้ใช้แรงแล้วก็จะได้พัฒนาทางด้านร่างกายของเด็กอีกด้วย
4.ส่งเสริมให้เด็กรู้จักการผูกมิตร มีเพื่อน
ส่งเสริมให้เด็กได้เป็นเพื่อนกันทั้งในคลาสเรียน และในละแวกชุมชน ให้เด็กได้รู้ถึงการวางตัวต่อเพื่อน ๆ รู้จักการผูกมิตรมากกว่าการสร้างศัตรู รวมไปถึงการสอนให้เด็กตระหนักรู้ถึงสิ่งไม่ดีของการที่หยอกล้อ หรือดูถูกสิ่งที่เพื่อนคิดว่าเป็นปมด้อย เพื่อให้ทุกคนรอบตัวของเด็กไม่เกิดความรู้สึกแย่ และส่งต่อสิ่งไม่ดีไปในอนาคต โดยหากคุณครูทำการส่งเสริมให้เขาเป็นเด็กที่เข้ากันคนง่าย รู้จักผูกมิตรเขาก็จะได้มีพัฒนาการที่ดีทางด้านสังคมซึ่งจะมีผลกับเขาในอนาคตนั่นเอง
5.ส่งเสริมให้เด็กมีความกล้ามั่นใจในการแสดงออก
การที่เด็กกล้าแสดงออกทั้งทางด้านกิจกรรม หรือการให้ความร่วมมือ การแสดงความคิดเห็น ล้วนเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง คุณครูจึงควรที่จะเปิดโอกาสให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ แต่ทั้งนี้คุณครูก็ต้องสนับสนุนและหาแนวทางที่เด็กในคลาสเรียนทุกคนสนใจหรือถนัด เพื่อให้เขาได้มีจุดที่มั่นใจ และชอบที่จะทำนั่นเอง โดยการเสริมด้านนี้เด็กจะมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจมากขึ้น
6.ส่งเสริมให้เด็กทุกคนออกกำลังกาย
เรื่องพัฒนาการของร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับพวกเขา นอกจากกิจกรรมที่ได้ขยับตัวแล้ว คุณครูต้องส่งเสริมให้พวกเขาออกกำลังกายโดยตรงให้เหมาะสมกับวัยของพวกเขาด้วย เพื่อให้เขาได้มีสุขภาพที่ดี และการเจริญเติบโตที่ควรจะเป็นไปตามเกณฑ์อายุของเขา
เพราะนอกจากครอบครัว ‘คุณครู’ ก็เป็นอีกคนที่มีส่วนร่วมในชีวิตของเด็กในช่วงปฐมวัย ดังนั้นเราจึงเป็นอีกคนที่มีอิทธิพลอย่างมากในการช่วยส่งเสริมพัฒนาการของตัวเด็ก เพื่อพร้อมสำหรับการที่จะเรียนรู้ในขั้นถัดไปและทำให้เด็กสามารถใช้ชีวิตประจำวันในสังคมได้เป็นอย่างดีไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน กลายเป็นพลเมืองดีอย่างที่ควรจะเป็นในอนาคต
และสำหรับการส่งเสริมการพัฒนาของเด็กนั้นก็ควรที่จะเป็นไปตามยุคสมัยสังคมในปัจจุบัน อย่ายึดติดกรอบเดิม ๆ ในการพัฒนา แต่ต้องพาเขาก้าวหน้าในกรอบใหม่ที่ดีกว่าเดิมอีกด้วย
สำหรับครั้งหน้า “รัฐกุล” จะมีข้อมูลดี ๆ หรือเคล็ดลับในการเลี้ยงดู อบรมเด็กปฐมวัยอย่างไร สามารถรอติดตามได้ผ่านทางแฟนเพจของรัฐกุลและหน้าเว็บไซต์เช่นเคยค่ะ สำหรับวันนี้ขอเป็นกำลังใจให้ผู้สอนทุกท่านในช่วงออนไลน์แบบนี้ ให้มีกำลังใจและได้กลับมาสอนแบบปกติไว ๆ นะคะ
Related posts
ประสบการณ์ยิ่งเยอะ…ยิ่งเรียนรู้ได้ไว ชวนคุณครูปฐมวัยมาดูแนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย (ตามหลักสูตรปฐมวัย พ.ศ. 2560)
หมวดหมู่
- ความรู้ครูปฐมวัย (108)
- หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย (30)
- อื่นๆ (66)
- ดาวน์โหลดเอกสาร (2)
- พัฒนาการเด็กปฐมวัย (44)
- เอกสารประเมินพัฒนาการเด็ก (14)
- โปรแกรมครูแคร์ (11)
- วิดีโอ (6)
บทความล่าสุด
- 5 เทคนิคเด็ดสำหรับครูและพ่อแม่ เพิ่มทักษะอารมณ์และสังคมให้เด็กปฐมวัย กันยายน 23, 2024
- เคล็ดลับการเตรียมเด็กอนุบาลให้พร้อมสำหรับวันแรกของโรงเรียน กันยายน 22, 2024
- การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เป็นมิตรและปลอดภัยของเด็กปฐมวัย กันยายน 17, 2024
- เปลี่ยนเด็กดื้อเป็นเด็กดี ด้วยวิธีรับมือแบบคุณครูมืออาชีพ กรกฎาคม 1, 2024
- รับมือเด็ก Gen Alpha เรื่องนี้ คุณครูต้องรู้ มิถุนายน 10, 2024
บทความแนะนำ
-
5 เทคนิคเด็ดสำหรับครูและพ่อแม่ เพิ่มทักษะอารมณ์และสังคมให้เด็กปฐมวัย
กันยายน 23, 2024 -
การจัดประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
มิถุนายน 6, 2018 -
การให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม
มิถุนายน 6, 2018 -
วิธีฟื้นคืนเด็กพิเศษให้ปกติด้วยการศึกษา
มิถุนายน 6, 2018 -
เสริมสร้างพัฒนาการเด็กอย่างไรให้โตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ!
มิถุนายน 6, 2018