How to จัดตารางกิจวัตรประจำวันสำหรับเด็ก ตัวช่วยเสริมพัฒนาการแบบมีระบบ -1

การเริ่มต้นพัฒนาของเด็กช่วงปฐมวัย การทำอะไรที่มีระบบระเบียบฝังรากไว้ในตัวเด็กนั้นสำคัญอย่างมากโดยการจัดตารางกิจวัตรประจำวันสำหรับเด็กนั้นจะทำให้เด็กได้มีวินัยและได้พัฒนาการครอบคลุมทุกด้าน 

ซึ่งการจัดตารางกิจวัตรประจำวันสำหรับเด็กนั้นต้องอยู่ในขอบเขตที่ต้องจัดการอย่างเหมาะสม สามารถปรับลดเวลายืดหยุ่นได้ตามความเห็นของตัวผู้สอนที่คิดและลงความเห็น ว่าตารางกิจวัตรประจำวันที่สร้างสำหรับเด็กของผู้สอนนั้น เหมาะสมกับตัวเด็กหรือไม่ 

โดยวันนี้ “รัฐกุล” ได้นำข้อมูลดี ๆ สำหรับการจัดตารางกิจวัตรประจำวันสำหรับเด็กมาบอกต่อกันค่ะ 

ต้องจัดทำตารางอย่างไรถึงจะช่วยพัฒนาตัวเด็กให้ครบและครอบคลุมทุกด้านบ้าง สามารถอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

การจัดตารางเบื้องต้นเพื่อการพัฒนาการ ระหว่างอยู่สถานศึกษา 

การจัดตารางกิจวัตรประจำวันสำหรับเด็กระดับเบื้องต้นเพื่อการพัฒนาการระหว่างที่อยู่สถานศึกษานั้นเริ่มต้นต้องคำนึงถึงกิจกรรมที่สามารถทำให้เด็กได้มีพัฒนาการในส่วนต่าง ๆ อย่างครอบคลุมทั่วทุกด้าน 

โดยพัฒนาการต่าง ๆ ที่จะมุ่งเน้นให้เด็กได้มีพัฒนาการได้แก่… การพัฒนาทักษะในด้านการใช้ชีวิต,การพัฒนาการด้านสติปัญญาและความรู้,ด้านสังคม ในการเข้าร่วมทำงานกับผู้อื่น,ด้านจิตใจ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการพัฒนาทางด้านร่างกาย 

โดยการจัดตารางเวลา เบื้องต้นที่หลักสูตรปฐมวัย ฉบับปี 2560 ได้ระบุไว้ดังนี้ 

การพัฒนาเด็กอายุ 3-4 ปี
รายชั่วโมง/วัน
เด็กอายุ 4-5 ปี
รายชั่วโมง/วัน
เด็กอายุ 5-6 ปี
รายชั่วโมง/วัน
การพัฒนาทักษะพื้นฐานในชีวิตประจำวัน
(รวมทั้งการช่วยตนเองในการแต่งกาย การรับประทานอาหารสุขอนามัยและการนอนพักผ่อน)
3 ชั่วโมง2 ชั่วโมง 30 นาที2 ชั่วโมง 15 นาที 
การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุมเล่น1 ชั่วโมง1 ชั่วโมง1 ชั่วโมง
การคิดและริเริ่มสร้างสรรค์1 ชั่วโมง1 ชั่วโมง1 ชั่วโมง
กิจกรรมด้านสังคม (การทำงานร่วมกับผู้อื่น)30 นาที 45 นาที 1 ชั่วโมง
กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่45 นาที 45 นาที 45 นาที 
กิจกรรมที่มีการวางแผนโดยผู้สอน45 นาที 1 ชั่วโมง1 ชั่วโมง
เวลาโดยประมาณ7 ชั่วโมง7 ชั่วโมง7 ชั่วโมง

สิ่งที่ควรคำนึง ระหว่างการจัดตารางกิจกรรม

หลังจากรู้ไปแล้วว่าเวลาในการคำนวณและจัดตารางกิจกรรมควรเป็นเช่นไร ต่อไปคือสิ่งที่ควรคำนึง 

โดยสิ่งที่ควรคำนึงส่วนใหญ่นั้นจะเป็นการคำนึงถึงผลลัพธ์ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร ควรจัดตารางอย่างไรให้เกิดผลในการพัฒนาของตัวเด็ก ซึ่งรวม ๆ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมีด้วยกันดังนี้

  1. การจัดตารางนั้นสามารถปรับเปลี่ยน หรือยืดหยุ่นได้เพื่อให้เหมาะสมกับตัวเด็ก 
  2. การจัดตารางกิจวัตรประจำวันควรจัดเพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่นให้เริ่มหัดลงมือจับสิ่งของ หรือทำกิจวัตรนั้น ๆ เอง โดยในช่วงวัย 3 ปี อาจจะต้องมีการจับตาดู และช่วยแนะนำเขาจนกว่าจะเริ่มทำได้เอง ส่วนวัยที่โตขึ้นมาก็เริ่มปล่อยให้เขาทำเองได้ 
  3. การจัดกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ ควรเน้นไปที่การให้เขาทรงตัว และมีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วและกล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่น 
  4. การจัดกิจกรรมเล่นอิสระ เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อให้ได้เด็กเรียนรู้อย่างอิสระ และฝึกการตัดสินใจด้วยตัวเอง 
  5. จัดกิจกรรมที่ทำให้เด็กได้เกิดความคิดสร้าง เพื่อให้ได้ฝึกคิดรวบยอด คิดเชิงเหตุผล และมีจินตนาการ 
  6. กิจกรรมที่พัฒนาทักษะทางด้านสังคม ต้องส่งเสริมให้เขาได้ทำความรู้จักและผูกมิตรกับเพื่อน รวมไปถึงฝึกให้เด็กได้มีการประพฤติที่ดี สามารถใช้ชีวิตร่วมกับสังคมได้ 
  7. กิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมสติปัญญา ในช่วงปฐมวัยความรู้ที่ได้นั้นส่วนใหญ่จะมาจากการเล่น โดยสอดแทรกความรู้ไปในกิจกรรมนั้น ๆ เพราะเด็กยังอยู่ในวัยที่ควรเล่นเพื่อเรียนรู้และรับประสบการณ์ โดยกิจกรรมที่ใช้ส่งเสริมสติปัญญานั้น จะเป็น กิจกรรมเกมเพื่อการศึกษา เป็นต้น 
  8. กิจกรรมทั้งหมดที่เด็กทำ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้สอน  โดยเริ่มจากการแนะนำ และปล่อยให้เขาได้เริ่มปฏิบัติเองจนชิน 

โดยตารางกิจวัตรประจำวันที่หลักสูตรปฐมวัย ฉบับปี 2560 ได้ทำตัวอย่างออกมามี 2 ตารางดังนี้ 

ตัวอย่างตารางกิจวัตรประจำวันแบบที่ 1ตัวอย่างตารางกิจวัตรประจำวันแบบที่ 2
08.00-08.30 : รับเด็ก08.00-08.30 : รับเด็ก
08.30-08.45 : เคารพธงชาติ สวดมนต์08.30-08.45 : เคารพธงชาติ สวดมนต์
08.45-09.00 : ตรวจสุขภาพ ไปห้องน้ำ08.45-09.10 : กิจกรรมดนตรีและจังหวะ /กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
09.00-09.20 : กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ09.10-10.30 : กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ และเล่นตามมุม
09.20-10.20 : กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ และเล่นตามมุม10.30-10.40 : พัก (รับประทานอาหารว่าง)
10.20-10.30 : พัก (รับประทานอาหารว่าง)10.40-11.20 : กิจกรรมเล่นกลางแจ้ง
10.30-10.45 : กิจกรรมเสริมประสบการณ์/ในวงกลม11.20-11.30 : พัก (รับประทานอาหารว่าง)
10.45-11.30 : กิจกรรมเล่นกลางแจ้ง11.30-11.50 : กิจกรรมเสริมประสบการณ์/ในวงกลม
11.30-12.00 : พัก (รับประทานอาหารกลางวัน)11.50-13.00 : พัก (รับประทานอาหารกลางวัน)
12.00-14.00 : นอนพักผ่อน13.00-15.00 : นอนพักผ่อน
14.00-14.20 : เก็บที่นอน ล้างหน้า15.00-15.10 : เก็บที่นอน ล้างหน้า
14.20-14.30 : พัก (รับประทานอาหารว่าง)15.10-15.30 : พัก (รับประทานอาหารว่าง)
14.30-14.50 : กิจกรรมเกมการศึกษา15.30-15.50 : กิจกรรมเกมการศึกษา/เล่านิทาน
14.50-15.00 : เตรียมตัวกลับบ้าน15.50-16.00 : เตรียมตัวกลับบ้าน

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมนั้น สามารถสลับ เพิ่ม/ลด เวลาได้ ตามความเหมาะสมและการวางแผนของผู้สอน  

กิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งที่เด็กต้องทำทุกวัน ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรให้เขาได้ทำกิจกรรมที่เสริมทักษะ เพื่อให้ตัวเด็กได้มีการพัฒนาร่างกาย,จิตใจและอารมณ์,สติปัญญา และ การเข้าสังคม หรือพัฒนาให้ครอบคลุมทุกด้านตามเป้าหมายของหลักสูตรปฐมวัยนั่นเอง 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *